ตารางราคาเลนส์ชั้นเดียว-โฮย่า

เลนส์ในสต๊อกบริษัท Hoya สั่งเบิกของ 3-4 วัน เลนส์จะมาถึงเชียงใหม่

• พิเศษเฉพาะร้าน เดอะวิชั่นออพติค กับเครื่องสแกนกรอบ-โฮย่า  คลิก
• ตารางราคาเลนส์โปรเกรสซีฟ-โฮย่า  คลิก
• ตารางราคาเลนส์ 2 ชั้น-โฮย่า  คลิก

index คือ

**เลนส์ที่มีค่า index สูง เลนส์จะยิ่งบางและเบาขึ้น index 1.60 เป็นต้นไปจะเป็นเลนส์เหนียว ที่สามารถนำมาใส่กรอบเจาะได้***

เลนส์โฮยา… มี Index มากมายให้เลือกใช้สำหรับทุกค่าสายตา

EYVIA  1.74    บางกว่าเลนส์มาตรฐาน ≈ 50

EYRY 1.70      บางกว่าเลนส์มาตรฐาน ≈ 45%

EYNOA 1.64   บางกว่าเลนส์มาตรฐาน ≈ 40%

EYAS 1.60      บางกว่าเลนส์มาตรฐาน ≈ 30%

CR39 1.50      เลนส์มาตรฐานทั่วไป

การแบ่งตามค่าดัชนีหักเหแสง (refractive index) หรือเรียกง่ายๆได้ว่าค่าอินเด็กซ์ เป็นตัวเลขที่บอกความสามารถในการหักเหของแสงในวัสดุที่ใช้ทำเลนส์นั้นๆ อีกนัยหนึ่งคือตัวเลขบอกความสามารถในการให้กำลังสายตา แต่หากจะสรุปและอธิบายอย่างง่ายที่สุดก็คือ ณ ค่าสายตาเดียวกัน เลนส์ที่มีดัชนีหักเหแสงสูงกว่า มักจะผลิตได้เลนส์บางกว่าเลนส์ที่มีดัชนีค่าน้อยกว่านั่นเอง เลนส์ที่มีค่าดัชนีสูงๆจึงมักเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆสำหรับผู้ที่มีสายตามากๆเสมอ

ค่าดัชนีหักเหแสง มีค่าเริ่มจากราว 1.5, 1.56, 1.6 ,1.67, ไปจนถึงสูงสุดในปัจจุบัน คือ 1.9 แต่ด้วยข้อจำกัดทางเทคนิคและต้นทุนการผลิต ในปัจจุบันเราจึงพบว่าเลนส์พลาสติกมีค่าดัชนีได้สูงสุดราว 1.7 เศษๆและอาจไปถึง 1.8ในเร็ววันนี้ ในขณะที่เลนส์กระจกมีค่าดัชนีได้ถึง 1.9

แบ่งโดยคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เช่น แบ่งตามคุณสมบัติความทนทานต่อแรงกระแทก (impact resistance) หรือมักเรียกว่าเลนส์เหนียวเป็นพิเศษ เลนส์ที่ทำจากพลาสติกบางจึงมีข้อเด่นตรงที่แตกยาก จึงสามารถปกป้องดวงตาจากเศษวัสดุกระเด็นเข้ามาได้ดีกว่า เป็นต้น หรืออาจพิจารณาในเรื่องความถ่วงจำเพาะ (specific gravity) ซึ่งมีผลต่อน้ำหนักเลนส์โดยตรง ตัวอย่างเช่น เลนส์ที่ทำจากวัสดุพลาสติกซึ่งมีค่าความถ่วงจำเพาะต่ำกว่าวัสดุกระจก ผลก็คือหากความหนาของเลนส์เท่ากันแล้ว เลนส์พลาสติกย่อมมีน้ำหนักน้อยกว่าเลนส์กระจกนั้นเอง

มัลติโค้ทคือ

มัลติโค้ท โฮย่ามี  3 ระดับคือ VP , SFT และ VG  สิ่งที่แตกต่างกันคือคุณภาพของผิดโค้ทเช่นกันรอยเพิ่มขึ้น 

และมีคุณสมบัติเสริมเช่น VP Blue Control และ VG Blue Control ที่สามารถตัดแสงสีน้ำเงิน เหมาะสำหรับหน้าจอมือถือและ คอมพิวเตอร์

เปลี่ยนสี คือ

ตัดแสงสีฟ้า คือ

นวัตกรรมล่าสุด…ที่ปกป้องมากกว่าดวงตา

– ปวดตา,ปวดหัว : ปัญหาจากการมองจอ LCD,LED และจอ Digital

การทำงานในยุคปัจจุบันของคนเราล้วนต้องเกี่ยวข้องกับหน้าจออุปกรณ์อิเล็คโทรนิคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Notebook, Tablet หรือ จอมือถือปัญหาหลักที่พบจากการทำงานอยู่หน้าจอ LCD,LED หรือจอ Digital เป็นเวลานานๆ ก็คือ อาการตาพร่ามัว, ปวดตา และปวดหัว

– หน้าจอ LCD, LED และจอ Digital มีแสงสีน้ำเงินสูงกว่าแสงปกติ

ปัญหาปวดตาเมื่ออยู่หน้าจอ LCD,LED หรือจอ Digital เพราะหน้าจอเหล่านี้ปล่อยพลังงานแสงสีน้ำเงินออกมาเทียบเท่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งเป็นพลังงานที่มากเกินไป

– แสงสีน้ำเงิน…ผลกระทบโดยตรงกับจอประสาทตา

UBV เป็นอันตรายต่อกระจกตา ส่วน UVA สามารถผ่านกระจกตาเข้าไปถึงเลนส์ตาและเป็นสาเหตุของการเกิดเป็นต้อ แต่แสงสีน้ำเงินเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นแสงปกติจึงสามารถผ่านเข้าไปถึงจอประสาทตาดังนั้นการมองหน้าจอเป็นเวลานานๆ จึงทำให้มีผลกระทบกับจอประสาทตาโดยตรง

– ป้องกันจอประสาทตาไว้ก่อนด้วย
“เลนส์ตัดแสงสีน้ำเงิน”

เลนส์ทั่วไปที่เคลือบป้องกันรังสี UV จะตัดความยาวคลื่นที่ 400 นาโนเมตร เลนส์มัลติโค้ท HOYA BlueControl จะสามารถตัดความยาวคลื่นมากขึ้นถึง 440 นาโนเมตร จึงช่วยป้องกันทั้งรังสี UV และแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายกับจอประสาทตา

.

.

*บทความหรือวีดีโอนี้มีลิขสิทธิ์ จัดทำโดย www.thevisionoptic.com ไม่อนุญาติให้ทำซ้ำ ดัดแปลง  หรือแก้ไข